อลาสกา ความฝัน ความจริง และความทรงจำ

ฝันให้ไกล..แล้วไปให้ถึง..

ขอสักครั้งในชีวิต เป็นความคิดความฝันในวัยเยาว์ ภาพภูเขาแนวเขาที่ยอดปกคลุมด้วยหิมะ..ธารน้ำแข็ง เรือครุยส์..

บัดนี้ มาภาพจริงมาปรากฎอยู่ในสายตาของฉันแล้วจริงหรือนี่..

Alaska ..Glacier bay..

สวยงามจับใจ เหลือเกิน ทำไม น้ำตาต้องไหลมาด้วยนะ

อยู่มาจนล่วง วัยเกษียณปี ความฝันที่เป็นจริง..

อาจไม่ใช่เรื่องยากนักสำหรับคนหลายคน..ที่จะได้มีโอกาสเดินทางต่างประเทศ คนยุคเราเบบี้บลูม..กว่าจะได้มีโอกาสเดินทางตามฝันไปรอบโลก ไม่ใช่เรื่องง่าย ห่างไกลเหลือเกิน..

ไปตามหาAlaska..

เริ่มตามหาข้อมูลเปิดgoogle..

"อลาสก้าเป็นมลรัฐอันดับที่ 49 ของสหรัฐอเมริกา เข้าสู่การเป็นรัฐในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2502 โดยสหรัฐอเมริกาซื้อมาจากรัสเซีย ในราคา 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปีค.ศ. 1867 หรือ พ.ศ. 2410 ตรงกับปลายรัชกาลที่ 4 นับเป็นมลรัฐที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา "

2018 ฉันจะบินไปหา..

ปี2018 ปีที่ 3ของวีซ่าอเมริกา ปีนี้เราขอวีซ่าคานาดาด้วย ด้วยแผนการเดินทาง คือไปนิวยอร์ค ออกโตรอนโต ชมไนแอกการา ทั้งฝั่งอเมริกาและคานาดา แล้วก็บินไปCalgary เพื่อขับรถท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติBanff ทบทวนแผนเราต้องเข้าซีแอทเทิลขากลับจากแวนคูเวอร์เข้าอเมริกา ที่นี่ล่องครุยส์ไปAlaska ได้นี่ ไปอลาสก้าปีนี้เลยดีกว่า ก็เลย ต้องลดวันเที่ยวในcanada ออก เก็บBanffไว้ จำต้องตัดJasperด้วยเส้นทางขับรถ ออก และลดวันที่อยู่ในSanfranciscoออก..กำหนดการ7คืนล่องครุยส์อลาสกา ก็เป็นจริง.17-24 มิถุนายน2018 ไปกับ Norwigian Pearl ค่ายNCL

เป็นการล่องครุยส์ครั้งแรกในชีวิต..เราเลือกห้องประหยัด ตามโปรราคาถูกสุด ห้องพักไม่มีหน้าต่าง มีเตียงเสริม ด้วยเราไปกัน สามคน ห้องพักเราชั้น11 เราไม่จำเป็นต้องใช้ห้องวิวสวยงาม ไว้สำหรับอาบน้ำ และเข้านอน (เราจองออนไลน์กว่าจะจองผ่านมีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อย แต่ก็พยานามจองออนไลน์จนได้ ) ทั้งวันเราก็มีมุมนั่งชมวิว ชิม ดื่ม ได้ทั้งวัน ฟิตเนสก็มี วิ่งเดินรอบเรือออกกำลังกายก็ได้

แสนจะสะดวกสบาย..

ขอเล่าประสบการณ์การเดินทาง

ด้วยเราเดินทาวนั่งรถบัสข้ามจากแวนคูเวอร์ คานาดาข้ามมาซีแอทเทิลอเมริกา ด้วยข้ามพรมแดนเข้าอเมริกา ต้องลงจากรถลากกระเป๋าผ่านImigration ทุลักทุเล นิดหน่อย ไม่ยักกะเหมือนข้ามจากอเมริกาไปคานาดา ที่ไนแอกการา เรานั่งแท๊กซี่ข้ามสะพาน มีด่านตรวจพาสปอร์ตเรา โดยเราไม่ต้องลงจากแท๊กซี่เลย ใช้เวลา 3นาที จบผ่านเข้าคานาดาได้แล้ว

เรามาพบกับน้องนัทหลานสาวพี่ฉิกบัดดี้ น้องนัททำงานที่ Exxon mobil บินมาจากฮุสตัน ช่วยจัดการสื่อสารต่างๆ เราเลยสะดวกสบายกับการสื่อสารช่วงนี้ เราพักที่ซีแอทเทิล1คืน เดินชม ช๊อบ เยี่ยมร้านสตาบัคร้านแรกของโลกที่ถือกำเนิด ในตึกห้องเล็กๆบริเวณตลาดPike Market ยังใช้ตราโลโกดั้งเดิมรูปนางเงือก เราเลยซื้อแก้วมาเป็นที่ระลึก ใช้คุ้มแก้วเก็บความเย็นได้ดีมาก เป็นแก้วใบโปรดมาถึงทุกวันนี้ และเรายังไปชมและนั่งจิบกาแฟพักเหนื่อยที่โรงคั่วใหญ่สตาบัค เป็นอันว่าถึงซีแอทเทิล แต่ยังค้างรายการขับรถไปเที่ยวMount Rainier *อุทยานแห่งชาติเรนี่ย์ ฟูจีแห่งอเมริกา ด้วยรูปทรง คล้ายๆกัน เก็บไว้ขากลับจากล่องครุยส์อลาสก้า แนะนำถ้ามาเที่ยวอลาสกาทมาลงครุยส์ที่ซีแอทเทิลแล้ว ต้องมาเที่ยวอุทยานเรนี่อันสวยงามด้วย ขับรถมาก็ไม่ไกลมากราวๆ2ชั่วโมง ได้เที่ยวชมระหว่างทางด้วย

*Mount Rainier หรือที่รู้จักกันในชื่อ Tahoma หรือ Tacoma เป็นภูเขาไฟชั้นหินขนาดใหญ่ในเทือกเขา Cascade ของ Pacific Northwest ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Mount Rainier ประมาณ 59 ไมล์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของซีแอตเทิล ด้วยความสูงของยอดเขา 4,392 เมตร สูงที่สุดในรัฐวอชิงตัน อเมริกา

กลับมาอลาสก้าต่อ เราลงทะเบียนซื้อทัวร์เอ็กซ์เคอชั่น ลงไปเดิน เที่ยวนั่งรถไฟSkagway ชมธารน้ำแข็ง รวม 2รายการ จ่ายอีกประมาณหนึ่งหมื่นบาท เมื่อรวมกับค่าครุยส์ เฉลี่ย3คน ตก7วัน7คืนล่องครุยส์อลาสก้า จ่ายกันคนละปัดเลขกลมๆสี่หมื่นบาทต่อคน ก็นับว่าคุ้มมากๆ กับการได้มาถึงอลาสก้า เท่ากับว่าค่าที่พัก,ค่าเดินทางและอาหาร3มื้อ วันละห้าพันบาทเศษๆ.สำหรับการล่องครุยส์ดีอย่างที่ไม่ต้องใช้เงินอื่นๆอีกแล้ว ด้วยตลอดเวลาในเรือเราใช้ได้เพียงการ์ดใบเดียวที่ใช้แทนเงินสด ซึ่งจะลิงค์กับบัตรเครดิตเราที่แจ้งตอนลงทะเบียน ก็สะดวกดี ไปไหนบนเรือไม่ต้องพกกระเป๋า แค่กระเป๋าคล้องคอใส่สมาร์ทโฟนใสแว่นตาไว้ถ่ายรูป

เรือล่องมาตามแผนที่ด้านล่างจอดจุดแรกที่จูโน (Junaeu)เมืองหลวงแห่งรัฐอลาสก้า ลงไปเดินสักหน่อยเที่ยวชมเมืองและก็ซื้อทัวร์ไว้ไปชมธารน้ำแข็ง เดินชมสวนชมป่า นั่งร้านอาหารแบบสไตล์คันทรี่อเมกัน ฮิบๆ แถวๆท่าเรือ ด้วย เวลาลงเรือ

ต่อมาก็ที่Skagway อันนี้มีเวลาเยอะ นั่งรถไฟwhite pass ชมวิวบนบกทางรถไฟ เส้นทางขุดทอง

รายการนี้ ฮิตมาก สำหรับใครที่ชอบผจญภัยซื้อทัวร์นั่งเฮลิคอปเตอร์ ชมวิวจากที่สูง ก็ได้หรือล่องเรือเล็กไปชมธารน้ำแข็งใกล้ ราคาจะสูงหน่อย

ขาวนกลับเรือจอดให้ที่เมืองKetchikan เดินชมเมืองน่ารัก มาถึงอลาสก้าแล้วต้องทานปูอลาสก้ากันซักหน่อย ที่ร้านดังร้านหนึ่งริมทะเล เพราะต้องเข้าแถวรอคิวนานพอสมควร ชมSalmonLadder สถานที่แซลมอนว่ายทวนน้ำขึ้นมา วางไข่ แต่เราไปเดือนมิถุนายน เรายังไม่เห็น ต้องมาในฤดูช่วงเดือนกรกฎาคม เลยต้องหาดูในรูปในยูทูปไปก่อน เราแวะลงเดินทุกจอด ที่เรือให้ลงด้วยเรามีวีซ่าคานาดา เลยได้ลงไปเดินเที่ยวเกาะวิกตอเรียแห่งคานาดา ได้อย่างเพลิดเพลิน

ขากลับนี้เรา จะผ่านจุดไฮไลท์สำคัญ เป็นวันที่ประทับใจกับวิวที่สวยงามที่สุด ที่นี่ Glacier bay ในยามเช้า ภูเขายอดหิมะ ธารน้ำแข็ง ช่างสวยงามปานภาพวาด เหมือนได้อยู่บนสรรค์เลย นึกในใจฉันเดินถ่ายรูปทุกมุม แล้วก็ต้องหยุดขอชมผ่านสายตาเต็มๆให้อิ่มตาอิ่มใจ ช่างงดงามเกินที่จะพรรณา ภาพในฝันปรากฎตรงหน้า เป็นภาพจริงในวันนั้น. และภาพแห่งความทรงจำมาถึงทุกวันนี้และตลอดไป

สามสาวต่างวัย ใจตรงกัน เรื่องท่องเที่ยว

เรือNorwegian Pearl

บรรยากาศยามเย็น สระน่าลงเล่นน้ำนะ แต่เย็นเจี๊ยบ ได้แต่ยืนดูคนเล่นน้ำได้ไง ไม่หนาวเหรอ

ห้องอาหาร ทานทั้งวัน จบทริปน้ำหนักขึ้นกันทุกคน

ลู่วิ่ง เดิน จ๊อกกิ้ง รอบๆเรือ

พนักงานบนเรือ ว่างจากงานก็มาออกกำลังกายเล่นกีฬา กัน..โอย..น่าอิจฉา วิวรอบๆสวยงาม

7คืน ไม่นานเลยสำหรับฉัน เพราะผ่านวิวสวยงามทุกวัน เราซื้อTour Excursion 2ทริป สุดเจ๋งSkagwayนั่งรถไฟไปชมเส้นทางขุดทอง วิวสวยงามมาก (อเมริกา ขุดเจอทองมหาศาล ภายหลังที่ซื้อแฝนดินนี้มาจากรัสเซีย.)