จอร์แดน ฟ้าจรดทราย
ทะเลทรายวาดิรัม
(Wadirum)หุบผาทะเลทรายแห่งจอร์แดน....
ทะเลทรายที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก..
ในประสบการณ์ที่ท่องเที่ยวผ่านทะเลทรายมา เพราะอะไรเหรอ?
ด้วยทรายที่นี่ มีสีชมพูอมส้ม ยามเม็ดทรายสะท้อนแสงอาทิตย์ยิ่งงดงามจับใจๆ อีกทั้งวิวอันงดงามในทะลทรายซึ่งมีภูเขาหินทราย(Sand stone)และหินแกรนิต สลับกับเนินทราย หินผารูปทรงแปลกตา งดงามเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนที่ใด ภาพยนต์ดังหลายเรื่องจึงเลือกมาใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำเช่นอาลาดิน,Lawrence of Arabia
ทะเลทรายวาดิรัม มีพื้นที่ 720ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ตอนใต้ของประเทศจอร์แดน มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า"หุบเขาแห่งพระจันทร์(The valley of the moon)"
ตามการศึกษาทางโบราณคดี ว่ากันว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่มาแล้ว 8,000ปีก่อนคริสต์กาล หรือ 10,000ปี นับถึงปัจจุบัน จึงมีภาพเขียนฝาผนังของมนุษย์ยุคโบราณหลายจุด..
ลองมาดูเหตุการณ์ใกล้ยุคปัจจุบัน ทะเลทรายวาดิรัมมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 มีนายทหารชาวอังกฤษT.E.Lawrence ได้มาสร้างพันธมิตรกับชาวเผ่าเบดูอินที่อยู่อาศัยในทะเลทรายแถบนี้ เพื่อให้ลุกฮือต่อต้านอำนาจการปกครองของอาณาจักรออตโตมาน (ซึ่งปัจจุบันคือ ตุรกี)โดยใช้วาดิรัมเป็นฐานบัญชาการสู้รบ ในทะเลทรายจึงมีอนุสรณ์ระลึกถึงLawrenceอยู่หลายแห่งในวาดิรัมนี้
เราเดินทางมาจากเพตรา ด้วยความประทับใจแล้ว มาที่นี่ก็ยิ่งประทับใจจอร์แดนขึ้นไปอีก..ถ้ามีเวลา อยากจะพักค้างสักคืนในทะเลทรายแห่งนี้ นั่งรถจี๊บเที่ยวชมมากกว่านี้ เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวเผ่าเบดูอิน หรืออาจจะปีนเขาเดินเขา
แต่สำหรับฉัน ที่อยากค้างสักคืนในแค้มป์(campsite)
บริการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน .. เพื่อขอนอนดูดาวกลางทะเลทราย....ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและมืดมิด มีแสงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้ากลางทะเลทรายวาดิรัม...
เมื่อไหร่หนอ..จะได้กลับไปอีกครั้ง..
ยังคงคิดถึงเสมอวาดิรัม..
พจญภัยไปในเพตรา..
เดินผ่านซอกหิน เส้นทาง ราว 2ก.ม. ถึงLandmark สำคัญThe Tresuary วิหารสีชมพูแกะสลักลงบนหินผาศิลาทรายบรรยากาศรอบๆสวยงามบรรยายไม่ถูก ต้องมาให้เห็นกับตา สถานแห่งนี้ที่ฉันเคยเห็นในหนังดัง อินเดียนาโจนส์ ยังตราตรึงคนึงหา ว่าสักวันหนึ่งต้องมาให้ถึง บัดนี้ได้ตามเส้นทางมาถึงแล้ว เราเดินชมกันหลายกิโล ชมภายในเมืองเพตรา 1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลก..มาถึงจุดทานข้าวพักเที่ยง ทานเสร็จแล้วก็ลุยกันต่อให้ถึงThe Monastery ขี่ลาขึ้นเขา900ขั้นบันได เสี่ยงชีวิตสุดๆ ก็ตรงที่ขี่ลานี่แหละ ด้วยเจ้าลา ก็ชอบเดินริมผา ทำให้เราเสียวตกเขา..รู้งี้เดินขึ้นเองดีกว่าไปยอมเหนื่อยหน่อย..ค่อยๆ เดิน เดินไปพักไปได้ถึงจุดที่ลาเดินไม่ได้.. ออกแรงเดินขึ้นบันไดต่อ ..วิวสวยงาม มาบรรเทาความเหนื่อยได้..ในที่สุดก็มาถึงจุดสุดยอดของการมาเพตรา..แห่งจอร์แดน
The Monastery.
ร่องรอยความยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิ์โรมัน
ดินแดนอาณาจักรไบเซนไทน์หรือโรมันตะวันออก ในอดีตที่เคยรุ่งเรืองเมื่อราว1,600-1,900ปีก่อน..บนดินแดนแถบกรุงอัมมาน เมืองหลวง ของประเทศจอร์แดนในปัจจุบัน
Temple of Artemis,
The Roman city of Jerash)
เทวสถานอาร์ทีมีส
แห่งเมืองจีราซ..จอร์แดน
หรือเมืองพันเสา หรือ ปอมเปอีแห่งตะวันออก
เทวสถานแห่งนี้ สร้างเสร็จราวๆ ค.ศ 150 ในรัชสมัยของจักรพรรดิ์อันโตนิอัส ไพอัส ต่อมา ต้นคริสต์ศตวรรษที่12 ยุคหนึ่งกลายสภาพมาเป็นป้อมสำหรับกองทหารและถูกเผาจากสงครามในดินแดนแถบนี้ในค.ศ.1121 ถูกทิ้งร้าง จนกระทั่ง
ค.ศ.1878 ขุดพบซากเทวสถานและโบราณสถาน รัฐบาลจอร์แดนได้กลับมาบูรณะฟื้นฟูความงดงามโบราณสถานนครโรมันตะวันออกหรือไบเซนไทน์ ให้ได้ชนรุ่นหลังได้รำลึกและชมความยิ่งใหญ่ของโรมันในดินแดนตะวันออกกันอีกครั้ง..
แล้วพบกันต่อ ไปเที่ยวDead Sea.
ขอขอบคุณพี่อ้วนและทีมงานสวีทแลนด์ แทรเวิลแอนด์ทัวร์ ภูเก็ต จัดทริปให้ได้ดั่งใจ บริการอย่างดีและเป็นกันเอง ขอบขอบคุณจากใจอีกครั้งค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น