Suomenlinna มรดกโลกแห่งเฮลซิงกิ ฟินแลนด์
หลังจากได้ชมแสงเหนือกันจุใจ ในบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี สวยงามที่เกาะโลโฟเทน มาถึงทรุมโซ ต่อด้วยบินมาเที่ยนกรุงทาลลินน์ เมืองหลวงแห่งเอสโตเนีย ชมเมืองเก่า พักผ่อนสบายๆ2คืน แล้วข้ามเฟอรี่จากทาลลินน์ มา กรุงเฮงซิงกิ เที่ยวแรกเช้าตรู่ ฝากของที่โรงแรมแล้ว ก็ออกเดินเที่ยวในกรุงเฮลซิงกิกันเลย ตั้งแต่11โมงเช้า
ปี1917 ฟินแลนด์ได้ประกาศอิสรภาพ เปลี่ยนชื่อป้อมปราการเป็น Castle of Finland แต่ป้อมปราการยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งทางทหารรัสเซียอยู่ดังเดิม จนกระทั่งเกิดสงครามกลางเมืองฟินแลนด์ ป้อมถูกใช้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษ บางคนถูกประหารชีวิต มีบางคนตายด้วยโรคระบาดที่นี่
เราเดินไปท่าเรือแถวท่าเรือบริเวณMarket square ราว20นาที ที่นี่มีตลาด พลาดได้ไง ก็ต้องไปสักหน่อย ทานซุบร้านดัง ด้วยเห็นคนเยอะมาก ดูน่าทาน อิ่มท้องกันแล้ว เป้าหมายเราคือไปเกาะซัวเมนลินนา(Suomenlinna) ห่างจากเฮลซิงกิเพียง 4กม. สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ และเป็นพื้นที่มรดกโลกตั้งแต่ปี 1991
มีความเป็นมาน่าสนใจดังนี้
ดินแดนแถบ นี้เมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน ราวศตวรรษที่18 เดิมเกาะนี้ คือป้อมปราการ ที่มีชื่อเรียกว่า Sveaborg หรือ ภาษาฟินนิชเรียกว่า Viapori สร้างโดยมติของรัฐสภาสวีเดน ในปี 1747เพื่อเป็นฐานบัญชาการทางเรือ ในยุคที่ฟินแลนด์ อยู่ภายใต้การปกครองของสวีเดน
ยุคนั้นรัสเซีย กับสวีเดนทำสงครามกันบ่อยครั้ง ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 1808 รัสเซียปิดล้อมเกาะ ป้อมViapori ทำให้ตกเป็นของรัสเซีย
ต่อมา ยุคสงครมไครเมีย ป้อมได้รับความเสียหายจากระเบิดและทรุดโทรม จนหมดความสำคัญลงไปไม่ใช่ยุทธศาสตร์หลัก อีกต่อไป
ปี1918 เปลี่ยนชื่อป้อมเป็นภาษาฟินนิช ว่า Suomenlinna และมีบทบาทในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยใช้เป็นฐานต่อต้านอากาศยานและฐานทัพเรือดำน้ำฟินแลนด์ จนกระทั่งปี1960 สิ้นสุดการทำหน้าที่ทางทหาร
ปี 1991 เกาะและป้อมปราการถูกประกาศเป็นพื้นที่มรดกโลก กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิโดยสมบูรณ์
เราใช้เวลาเดินชมถ่ายรูป จิบกาแฟในร้านน่ารัก เป็นช่วงเวลาที่พักผ่อน เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปมุมสวยงามมากมาย...
มาถึงเฮลซิงกิ ต้องแวะมาให้ได้นะคะ..
ศิรินัดดา มีนะกนิษฐ
1 ตุลาคม2019
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น