เดินเดี่ยวเที่ยวเองตุรกีถึงจอร์เจีย ภาค1ตุรกี
ตอนที่ 1 กว่าจะมาถึงอิสตันบูล(Istanbul)
"วัคซีนเข็ม 3 มาแล้ว ผู้ที่ฉีดSinovac 2 เข็ม ภายในเดือนพฤษภาคม2564 ให้มารับวัคซีนกกระตุ้นเข็มที่3 Astra Zeneka กระตุ้น " ติดต่อ รพ.ที่ท่านเคยรับเข็มแรก ได้การ ฉันไม่ได้เลือกมากเลือกมาย มีวัคซีนตัวไหนมาถึงจังหวะได้ฉีดก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองในยามที่มีโรคระบาด ก็ขอคว้าไว้ก่อน..24 กันยายน 2564 วันมหิดล โรงพยาบาล เมดพาร์คโดยเพื่อนจิ๊ก คนเก่ง แจ้งมา วันแรกฉันขอประเดิมเลย พร้อมกับความตั้งใจเดิมตุลาคม เป็นเดือนที่เมืองนอกจะมีอากาศที่เย็นสยาย ใบไม้เปลี่ยนสีในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะประเทศเป้าหมายปลายทางที่อยู่ในแผนการเดินทางอยู่แล้ว คือตุรกี ที่เลื่อนจากปีที่แล้ว แผนการแวบขึ้นมาทันที ไปตุรกีดีกว่า วีซ่าไม่ต้อง แค่มีวัคซีนพาสปอร์ต ก็ฉลุยเลย..ชวนเพื่อนไม่มีใครไปสักคน บางคนพาสปอร์ตยังไม่หมดแต่เหลือไม่ถึง6เดือน บางคนห่วงน้ำท่วม บางคนกลัว ..ส่วนใหญ่เหตุผลหลักคือกลัวโควิดไม่เป็นไรนะ เอาตามที่สะดวก ตามที่สบายใจ เราไปคนเดียวได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา..
สรุป ทริปนี้บินเดียวเที่ยวเองคนเดียว.. เริ่มขั้นตอนก่อนเดินทางสรุปง่ายๆ ดังนี้
1)จองตั๋วเครื่องบิน หลังจากแน่ใจ กำหนดวันเดินทางหลังฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ที่3 หลัง 14วัน ให้มั่นใจภูมิขึ้นเต็มที่แล้ว ฉันเลือกสายการบินการ์ตาแอร์เวย์ ด้วยเวลาดีที่สุด ราคาดี และเราก็เป็นสมาชิก Qatar oneworld ด้วย ชอบในบริการ
2)ไปขอวัคซีนพาสปอร์ต ด้วยตนเอง ที่สถาบันบำราศนราดูรฯ ซึ่งรับเฉพาะผู้ที่มีตั๋วเครื่องบินแล้วเท่านั้น ใช้เวลาครึ่งวันเสร็จ ด้วยที่นี่รับได้วันละไม่เกิน200คน จึงมีคนมาเข้าคิวตั้งแต่ตี1 ฉันเองก็ไปเข้าคิวตี 5.45 น .รอๆๆๆกว่าจะรับบัตรคิวเวลา 8.00น ได้คิวที่ 85 กว่าจะเสร็จ ราว11.00น. เรียบร้อย
คราวนี่ก็ ตามแผนเดิม2019 ที่เคยวางไว้แล้วเลื่อนเนื่องจากโควิด จองที่พักกับบุคกิ้งดอทคอม แบบยกเลิกได้ เลื่อนได้ไว้ก่อน
ไปทำใบขับขี่สากล ที่กรมการขนส่งฯจตุจักร เผื่อขับรถเองระหว่างเดินทางอยู่ที่ต่างประเทศ
3)ตามกฎเกณฑ์ การเดินทางเข้าประเทศตุรกีและจอร์เจีย แค่วัคซีน พาสปอร์ต ก็เข้าได้เลย ไม่ต้องมีผล PCR แต่ฉันต้องความมั่นใจ เลยขอมีใบรับรองการตรวจPCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ไว้ด้วยเพื่อความมั่นใจและสบายใจ ทำที่รพ.เปาโล พหลโยธิน 2,500บาท ถูกกว่าที่อื่นๆ
ตรวจวันอาทิตย์เช้า 8โมง ได้รับผล 16.30น รพ.โทรแจ้งมาว่าผลออกแล้วส่งอีเมลให้เแล้ว และมารับผลได้เลย ถ้าต้องการเอกสาร ฉันบินวันอังคาร ตี 3 ถึง อิสตันบูล วันอังคาร 12.10 น.เวลาท้องถิ่น ช่วงการฉีดจึงครอบคลุม 72ชม ถึงอิสตันบูล พอดี..
4)มาถึงขั้นตอนสำคัญที่สุด คือการลงทะเบียนขอเข้าประเทศตุรกี ภายใน72ชม ก่อนเดินทาง ผ่านระบบออนไลน์ จะได้รับ QR code มี Hes code และ เอกสาร pdf (สำคัญต้องเก็บไว้ใช้เมื่อไปเช็คอินเข้าที่พักต่างๆ ) เก็บไว้ในมือถือ หรือ print ออกมาก็ได้ สำหรับการเข้าตุรกี เอกสารนี้ใช้เมื่อเช็คอินขึ้นเครืองบิน พร้อมการตรวจเอกสารทั้งหมด วัคซีนพาสปอร์ต ด้วย สายการบินเป็นผู้ตรวจเอกสาร พอเข้าด่านเข้าเมืองตุรกี จึงง่ายมาก ตรวจแค่พาสปอร์ตอย่างเดียว
เป็นอันเรียบร้อย มาถึงแล้วอิสตันบูล...
ลงทะเบียนตามนี้ค่ะ
"Entrance Form to Turkey - Sağlık Bakanlığı - Yurda Giriş Kontrolü" https://register.health.gov.tr
อดีตกรุงคอนสแตนติโนเปิ้ล เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิไบเซนไทน์ หรือโรมันตะวันออก ที่ล่มสลายด้วยการยึดครองของจักรวรรดิออตโตมาน ปีค.ศ.1453 ยุคสมัยสุลต่านอัลเหม็ด ที่ 2 แห่งราชวงศ์ออตโตมาน
700ปีผ่านไป..อารยธรรมผสมผสานกลมกลืนทำให้ตุรกีมีความสวยงามแปลกตา ว่ากันว่ากรุงคอนสแตนติโนเปิ้ลนั้นสวยงามและศิวิไลซ์ที่สุดในโลกยุคนั้นทีเดียว น่าจะจริง เพราะฉันเองเมื่อมาถึงก็รู้สึกว่าหลงเสน่ห์เมืองนี้ หลงรักเข้าไปแล้ว..จริงๆ..อิสตันบูล..
รับกระเป๋าเสร็จ พอเดินออกมา มองดูป้ายรถบัสที่เข้าเมืองเดินไปตามป้าย แต่เราจำเป็นต้องแลกเงินตุรกีเพิ่ม เราเห็นGlobalแลกเงิน ไม่มีคอมมิชชั่น มีหลายจุด แต่เคยอ่านรีวิว เขาว่าอัตราแลกเปลี่ยนแพง เราก็ไม่ได้สนใจ ระหว่างเดินไปทางขึ้นรถบัส มีบูธแลกเงินของธนาคาร มีคนแลกเงิน 2-3คน เราก็เลย แลกเงินจากยูโรEur เป็นตุรกีลีลา ไปเลย..แล้วก็เดินตามป้ายต่อ ลูกศรชี้ลงลิฟท์ เราเข้าลิฟท์ไปตามนั้น ก็ไปตรงทางออกไปขึ้นรถบัส Haveistซึ่งจอดมีชานชาลามากกว่าสิบช่อง..รถบัสเราไปจตุรัสสุลต่านมาเม็ดย่านเมืองเก่า อยู่ชานชาลาที่ 12 ซื้อตั๋วตรงบูธใกล้ชานขาลา 35 try (140บาท)ด้วยเราจองที่พักที่อยู่ใจกลางเมืองใกล้ Oldtown แหล่งท่องเที่ยวเมืองเก่า แหล่งประวัติศาสตร์ เลือก Hotel Sapphire ราคาไม่สูงแต่ทำเลสุดยอด เพราะเดินไปไหนๆ สะดวกสุด ไม่ว่าจะสุลต่านอัลเหม็ด ฯ ไฮยาโซเฟีย พระราชวังทอปกะปึ , บลูมอสค์ ,ท่าขึ้นเรือล่องช่องแคบบอสฟอรัส..ในรัศมีที่เดินไม่เกิน15นาที อาหารการกินตั้งแต่หน้าโรงแรม จนกระทั่งแบบบโลคอล โลวคอส ก็มีทุกรูปแบบ หน้าตาสีสันล้วนน่าทานไปหมด พลาดได้ไง ..เราจัดไป อาหารประจำชาติ..ตุรกี นอกจาเคบัป ของโปรดแล้ว อย่างอื่นก็ดูน่าชิมน่าลอง
วันแรกเดินไปถึงจตุรัสสุลต่านอัลเหม็ด ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว ที่สวยงาม เราโชคดีทีมาทันได้ถ่ายรูป Hagia Sophia ทั้งด้านนอกด้านใน รอจากแสงอ่อน จนเริ่มค่ำ ภายใต้แสงไฟ ..งดงามไปอีกแบบ..
พรุ่งนี้จะกลับมาใหม่..แล้วพบกันตอนต่อไปมีรายละเอียดในแต่ละช่วงการเดินทางมากมายเหลือเกินค่ะ
วันนี้ง่วงแล้ว
สวัสดีและราตรีสวัสดิ์ค่ะ
เดินเดี่ยวเที่ยวเอง ตุรกีถึงจอร์เจีย
ตอนที่ 2
เพลินเดินชมเมืองอิสตันบูล
เล่าด้วยภาพ..
วันนี้เดินทั้งวันร่วม12ก.ม...เพลิดเพลินมาก เริ่มออกจากที่พัก9โมงกว่าๆ เดินผ่านสวนGulhanเหมือนเมื่อเย็นวาน สวนร่มรื่นสบายๆ เห็นใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้ว วันนี้ตั้งปลายทางไป
1)พระราชวังทอปกะปึ คนยังน้อย ซื้อบัตรเข้าชมแบบครบทุกสถานที่รวมทั้งHagia Irene ใน ราคา285 TL(Try)
เราไม่เร่งไม่รีบ ค่อยๆชมไปที่ละห้อง ของมากมายให้ได้ชม ตั้งแต่นาฬิกา อาวุธ ของใช้ ในยุคออตโตมาน ห้องหับ พาวิลเลี่ยน ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ว่าราชการของสุลต่านฯออตโตมานในอดีต..แล้วเดินชมสวน แล้วไปสุดที่จุดชมวิวเมืองอิสตัลบูล
มองวิวสูงมาทางฝั่งTaksim ที่เราอาจจะไปพัก วันหลังจากกลับมาจากจอร์เจีย
แต่ไม่แน่ อาจพักย่านOld townต่อ เพราะชอบบรรยากาศที่นี่เสียแล้ว..
2)Blue Mosque -บลูมอสก์ หรือมัสยิดSultan ahmet มัสยิดสีฟ้าสร้างในสมัยออตโตมาน ระหว่างค.ศ 1609-1616 รัชสมัยของสุลต่านอาเหม็ดที่1 ตรงข้ามกับ Hagia Sophia
การเดินทางมาย่านสุลต่านอาเหม็ด มาได้ด้วยการเดิน และ แทรม ก็จะมาเที่ยวได้ครบทั้งHagia Sophia,Topkapi palace,Blu mosque.ตลอดจนย่านจตุรัสฮิปโปโดรมชมเสาโอเบอลิสก์
ศาลาน้ำพุเยอรมัน.เดินเรื่อยๆมา ตั้งGoogle ไปGrand Bazar ตลาดเก่าแก่ที่ใหญ่มาก ผู้คนคึกคัก เราไม่ลืมที่จะใส่แมสก์2ชั้น ..บรรยากาศคึกคักดีจัง..ผู้คนจะมีแต่คนแขก, แขกขาว ฝรั่ง ไม่ค่อยมีคนเอเชียให้เห็นเลย เราก็คงจะดูแปลกหน้าไป จึงมีคนทักถามอยู่เรื่อยว่ามาจากไหน..Korea,Japan,Chinese..??
ไม่ยักกะถามว่า Thai บ้าง?..
คึดไปแล้วก็จริงนะ แทบไม่เห็นคนเอเชียหน้าตาแบบเราเลย เราเลยดูเป็นคนแปลกหน้าของที่นี่..แต่คนตุรกี เราว่าเขาน่ารักนะมีน้ำใจไมตรี ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ก็ได้รับน้ำใจไมตรี ความช่วยเหลือจากหนุ่มลูกจ้างร้านขายของกำลังทำงานส่งของ เห็นเรากำลังงงกับแผนที่ ลากกระเป๋าทุลักทุเล ท่ามกลางสายฝน หลังจากลงจากรถบัสที่มาจากสนามบิน ปล่อยเราลงที่ย่านAksaray เพราะรถบัสเข้ามาส่งที่ย่านสุลต่านอัลเหมดไม่ได้ ด้วยการปิดการจราจร หนุ่มคนนี้ เลยอาสาช่วยเหลือ พูดอังกฤษไม่ได้ แต่เข้าใจว่าเราต้องการความช่วยเหลืออะไร เราเอาใบจองที่พักให้ดู.. เขาเลยนำทางเรามาขึ้นรถราง อาสา ขนกระเป๋า ขึ้นที่ลากของให้ โดยไม่ยอมรับสินน้ำใจเลย แถมให้บัตรIstanbul card มาเป็นที่ระลึกด้วย และช่วยเติมเงินที่เราจะช่วยให้ค่าน้ำใจ มาในบัตรistanbul card อีกด้วย..วันแรกก็รู้สึกอุ่นใจแล้ว ตุรกีเที่ยวเอง ไม่น่ากลัว เลย
ต่อจากตลาดก็เดินไปเรื่อย กะว่าจะไปล่องเรือเย็น ๆ ทันชมพระอาทิตย์ตกดิน บนเรือ มีเรือรอบ 17.00น. เลือกเรือนี้แหละ.. ระหว่างรอเห็นร้านคล้ายปาท่องโก๋ ขายดีจัง เลยซื้อมาลองชิม ชิมแล้ว อร่อยจริง แป้งทอด ราดน้ำเชื่อม..ถ้วยละ 8try /30บาท
ไปชมบรรยากาศล่องเรือยามเย็นตามช่องแคบบอสฟอรัสกันค่ะ (35TL) ให้ภาพบรรยาย แล้วกัน..
แล้วพบกัน ตอนต่อไปนะคะ..
"เดินเดี่ยวเที่ยวเองตุรกีถึงจอร์เจีย"
ตอนที่ 3
บินออกเที่ยวนอกอิสตันบูล
ด้วยไฟลท์บินเลื่อนเวลาเร็วขึ้นมา1ชั่วโมง..ติดแอปcheckmytripไว้ในสมาร์ทโฟนคอยเตือนให้ดูการเปลี่ยนแปลงไฟลท์ได้เผื่อปรับแผนการเดินทางได้ทันการ เดิมแผนบินไป Izmir บ่ายโมงกว่า เลื่อนมาเป็นเที่ยงห้านาที อิสตันบูล ขึ้นชื่อเรื่องรถติด..การเดินทางไปสนามบินใช้เวลาราว1ชั่วโมง กว่า..เผื่อรถติด ฉันก็เลยให้โรงแรมเรียกแท๊กซี่ให้ 300 TL(1,200 บาท) ยอมสักครั้งซื้อเวลาความสะดวก เพราะ ยังต้องลุ้นกับการเดินทางเข้าต่างจังหวัดของตุรกี อีก ขอไปเช้าๆไว้ก่อน
Taxiairport สีเหลือง ใหม่ คนขับมารอรับก่อนเวลาเล็กน้อย นั่งสบายๆ เปิดวิทยุ ฟังเพลงแขก ไป สักพักสลับมากลายเป็น เสียงเพลงเร้าใจ.."Let's kill this love " Blackpink เสียนี่....เพลินๆไป 1ชม มาถึง ยื่นเช็คอิน พนักงานขอพาสปอร์ต วัคซีนพาสปอร์ต เท่านั้นเรียบร้อย ง่ายมาก บินเข้าIzmirได้ละ ปลายทางที่พักวันนี้ที่ Selcuk หรือเซลจุก ชื่อเหมือนราชวงศ์เซลจุกเติร์ก ที่เคยปกครองดินแดนแถบคาบสมุทรอานาโตเลียร่วมพันปีเมื่อพันปีก่อนหน้านี้ ฉัน
มาที่นี่ก็ต้องการ มาเที่ยวชมร่องรอยนครโบราณEphesus ดินแดนแห่งอาณาจักรโรมัน ..
1ชม นิดก็ลงสนามบินชื่อย่อADB แห่งIzmir ด้วยความเรียบร้อย หาทางประหยัดถัวเฉลี่ยค่าแท๊กซี่เมื่อเช้า เดินไปตามทางลูกศรชี้ทางไปรถไฟ ขึ้นบันไดเลื่อนก็ถึงสนานีรถไฟละ รถไฟ Izban เข้าไปซื้อตั๋ว บอกว่าจะไป Selcuk
14 TL (60 บาท) ตกใจถูกดีจังพอๆ กับบ้านเรามั้ยนะ?
แต่เสียอย่างไม่มีป้ายอิเลคโทรนิคส์หรือ ป้ายประกาศตารางรถไฟที่ผ่าน เส้นทางไว้ให้ดูเหมือนในยุโรปเลย เลย เท่าที่รู้จากข้อมูลที่ดูในRome2Rio แจ้งว่ามีรถจากที่นีบ่ายสามกว่าไปเซลจุก แต่คิดว่าน่าจะมีขบวนอื่นไปต่อขบวนที่สถานีอื่น ได้ ถามพนักงานบอกว่าอีกราว10นาที รอชานชาลาฝั่งขวามือ(มีแค่ซ้าย กับขวา 2 ชานชาลา)โดยขบวนที่มานี้จะไปสิ้นสุดทีสถานีปลายทางTepekoy ให้ลงแล้วเปลี่ยนขบวน ก็แค่เดิมข้ามมาอีกชานชาลาตรงข้ามกัน เป็นขบวนไป Selcuk
นั่งมาใช้เวลา 30นาที ต่อไปเซลจุกอีกราว 30นาที รวม เวลาราว1ชม.นิดหน่อย ค่าเดินทางจากสนามบิน แค่ 60บาทเอง
มาถึงแล้ว ออกเดินไปต่อ เปิดดูกูเกิ้ลแมพ ที่พักที่จองไว้ Ephesus Centrum เดิน 300เมตร 4นาทีถึง....
ลากกระเป๋ามาถึงถนนหน้าโรงแรม ระหว่างกำลังมองหาป้ายโรงแรม เจ้าของโรงแรม เดินออกมารับ..
ด้วย ฉันส่งข้อความ Whatsappมาแจ้งล่วงหน้าบนรถไฟว่าจะเข้าไปถึงราวๆเวลานี้.หายเหนื่อย เข้าห้องพักสวยงาม มีแชงกาเลียช่อเล็กห้อยระย้ากลางห้อง เพิ่มความคลาสสิค แต่ราคาน้อยนิดคืนละไม่ถึงพัน. ห้องมีเตียงควีน1 เตียง เตียงเดี่ยว 1 เตียง นอนได้ 3คน มาคนเดียว สบาย...คุ้มค่ามาก โรงแรมแบบครอบครัวต่างจังหวัดของตุรกี ชื่อว่า Ephesus Centrum ทำเลก็สะดวกเดินสำรวจเมือง..
เรามาถึงยังราวบ่ายสามกว่า ขอจัดของ อาบน้ำเอนกาย แดดร่มๆค่อยไปเดินสำรวจตัวเมืองSelcukกัน ..
โปรแกรมวันรุ่งขึ้น ไปร่วม Daytrip Ephesus ที่เราจองผ่านโรงแรมไว้กัน ..ทัวร์จะมารับราว 9-9.30น
พบกันตอนต่อไป Ephesus ถึง Pamukkale.
"เดินเดี่ยวเที่ยวเองตุรกีถึงจอร์เจีย
ตอนที่ 4
ชมนครโบราณอีเฟซุสถึงปามุคคเล
และฮีเอราโปลิส
ได้มาเที่ยวตุรกีสุดคุ้มมากประเทศนี้มีมรดกโลกมากมายร่วม18แห่ง ด้วยผืนแผ่นดินตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นจุดกลางระหว่างยุโรปและเอเชีย บริเวณที่เรียกกันว่าคาบสมุทรอนาโตเลีย
มีทะเลขนาบทั้งทะเลอีเจียน และทะเลดำ มีป่าเขา แหล่งน้ำ จึงมีมนุษย์ตั้งหลักแหล่งมาเนิ่นนาน ตามประวัติศาสตร์ จึงมีร่องรอยอารยธรรม หรือความเจริญในอดีตมากมาย มากว่าสองพันปี การพัฒนาเติบโตจากเผ่าเร่ร่อน มากมายหลายเผ่า จากเมืองภายใต้การปกครอง อาณาจักรยุคมาเซโดเนียกรีก จักรวรรดิโรมัน หรือไบเซนไทล์ กลายมาอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ที่ปกครองบนดินแดนแถบคาบสมุทรอนาโตเลียร่วมนับพันปี มีศูนย์กลางอำนาจหรือเมืองหลวงอยู่ที่เมืองคอนยา และต่อมาก็หนีไม่พ้นจักรวรรดิมองโกล กว่าจะมาถึงยุคของจักรวรรดิออตโตมาน มีประวัติศาตร์มากมาย มาเที่ยวตุรดีถ้าไม่ได้อ่าน ฟัง ชม ดู ประวัติศาสตร์ ก็ไม่สนุกเท่าได้ศึกษา มานะ..ฉันชอบอ่านประวัติศาสตร์ที่เกิดในประเทศต่างๆที่น่าสนใจ ตามดูหนัง ดูซีรี่ส์บ้าง นอกจากเป็นแฟนคลับซีรี่ส์เกาหลี และยังเป็นแฟนคลับหนัง,ซี่รี่ส์ตุรกี..อีกนะ เคยหนังตุรกีหลายเรื่อง การดำเนินเรื่องดูแล้วดึงอารมย์ร่วมได้ดี การดูซีรี่ส์ Derillis Ertgrul ( คืนชีพคืนแผ่นดิน)ซีรี่ส์ดังระเบิดไปทั่วโลกเมื่อ 3-4ปีก่อน ฉันเลยไม่พลาด ติดแงมเลย..ต้องตามมาตุรกี แบบอยากมาเองอิสระ ฝันนั้นเป็นจริงได้ โควิดไม่สามารถขวางกั้น..ฮาฮาฮา
9.30 น ทัวร์เดย์ทริปมารับที่โรงแรมเพื่อพาไปเที่ยวชมนครโบราณอีเฟซุส
อลังการ..อย่างไร
อิเฟซุสนับว่าเป็นเมืองสำคัญของจักรวรรดิโรมัน รองจากโรมก็ว่าได้ ปกครองดูแลดินแดนแถบนี้ ชมภาพ ภาพบรรยายแทนนะ แต่ระหว่างการเดินทาง3กม. จากตัวเมือง Selcuk รถวิ่งขึ้นเขา วิวสวยงามอีกด้วย
เริ่มจาก สถานที่แรก ที่ทัวร์พาไปคือ House of Virgin Mary
หลังจากไกด์บรรยายเสร็จ ก็ปล่อยอิสระเดินชมใช้เวลาราว45นาที
ต่อไป คราวนี้ก็ชุดใหญ่ กรุ๊ปทัวร์นี้มีฉันเป็นดาวเด่น ด้วยไม่มีคนเอเชียเลยสักคน มีแต่ฝรั่ง หลากหลายชาติ อาทิเช่นสเปน ฝรั่งเศส ออสเตรเลียและ แขกขาว ฯ ทุกคนรู้จักประเทศไทย ค่ะ รถแวนคันใหญ่นั่งสบาย 2คัน คันหนึ่งไกด์ภาษาสเปน อีกคัน ไกด์ภาษาอังกฤษ ฉันและอีก4คนต้องไปนั่งคันไกด์สเปน ด้วยรถคันไกด์ภาษาอังกฤษมีที่นั่งไม่พอ เขาบอกว่าไม่ต้องกังวล รถสองคันไปพร้อมกันตลอด แค่ช่วงเดินทาง ทัวร์ดูแลดี อาหารกลางวันจัดแบบคุณภาพ รถนั่งสบาย แต่ไม่ว่าทัวร์ไหน ก็ต้องมีโปรแกรมพาไปworkshop ซึ่งก็คือ การไปชมสาธิตการทำพรม งานฝีมือ ซึ่งก็ดีนะพรมงานฝีมือสวยงามสินค้าที่บ่งบอกถึงตัวตนที่มาความเป็นชาติเตริ์กในอดีต ที่ต้องอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันมีค่า ก็ได้ความรู้ว่า เส้นใยมีทั้งวูล, คอททอน และไหม แพงสุด และที่ถูกสุดคือทำจากใยไผ่ เขาบอกว่าราคาพรมนั้นไม่ได้ตั้งราคาที่วัตถุดิบ แต่ด้วยเป็นงาน ฝีมือHandicraft คือใช้คนทอด้วยวิธีโบราณ ราคาจึงอยู่ที่ค่าแรงค่าฝีมือคนทอ ผืนหนึ่งใช้เวลา บางชิ้นก็1เดือน บางชิ้นก็1ปี ราคาว่ากันเป็นหลักแสน ถึงหลักหมื่น สรุปกลุ่มทัวร์นี้ มีคนสนใจฟังอย่างตั้งใจ ได้ชมกันด้วยดี แต่ไม่มีใครได้ควักกระเป๋าซื้อ ใครซื้อเขาบริการส่ง Fedex ถึงบ้านเรียบร้อย... สรุปเราก็ออกไปชมสถานที่นครโบราณกันต่อ..
ไกด์ยืนอธิบายเป็นจุดๆ แล้วปล่อยให้เดินชมอิสระ นัดเวลาที่มาขึ้นรถ ทุกคนตรงเวลา สถานที่ๆไกด์อธิบาย เช่น Odeon theatre,Trajan Brother,และHighlight Library of Celsus ถนนหินอ่อนทางยาวนำเราเดินไปตามทางดูอลังการมากเลย ไม่น่าเชื่อ สิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่เมื่อกว่าสองพันปี คนสมัยนั้น มีเทคโนโลยี่ สร้างไว้ ทิ้งทรากปรักหักพังให้คนยุคนี้ได้มาศึกษาเรียนรู้ ถึงที่มาของเราได้ จากนั้นก็ไปGrand thertre สภาพของ อัฒจรรย์ ยักษ์ อลังการซึ่งสามารถใข้งานแสดงได้ถึงปัจจุบันจากการบูรณะ ,Isabey Mosque
และปิดท้ายด้วย Temple of Artemis ตามจินตนาการจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ วิหารอาคารขนาดใหญ่เสา 227 ต้น เหลือให้เห็นเพียง 1ต้น ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ชนรุ่นหลังต้องรักษาไว้สืบไป..
จบ ทัวร์หนึ่งวันผ่านไปด้วยดี กลับที่พัก วันนี้ตั้งใจไม่ออกไปไหนแล้ว ขอนอนเร็วหน่อย และเตรียมจัดของจัดกระเป๋าเตรียมเดินทาง พร้อมย้ายที่พักไปปามุคคเล คืนนี้ ฝนตกหนัก ไฟดับ ฉันไม่สนใจ ดับก็ดับไป ฉันหลับไปไม่รู้ตัว..
เสียงนาฬิกาปลุกดัง ตี 6.00น อาบน้ำอาบท่าจัดของต่อเล็กน้อย แล้วลงมารอทัวร์มาตามเวลา 7.30น
ออกเดินทางไปปามุคคเล วิวสองข้างทาง สวยงามเกินคาดหมาย เราใช้เวลาเดินทางจากเมืองSelcuk ถึง Denizli 3ชั่วโมง ทัวร์รับคนอีกกลุ่มหนึ่งมาสมทบ แล้วออกเดินทางไปPamukale ซึ่งห่างออกไปเพียง18กม ใช้เวลาเดินทาง20นาที..
ปราสาทปุยฝ้าย สีขาวเห็นแต่ไกล อีกไม่นานฉันจะได้ไปเดินตรงนั้นแล้ว วันนี้เป็นทัวร์แบบ Sight seeing แต่ก็มีช่วงชม นครโบราณ Heirapolis ซึ่งอยู่ติดภายในบริเวณเดียวกัน อันนี้ก็น่าสนใจ ซากปรักหักพังทิ้งไว้ให้เห็นว่า มีความเจริญในอดีตบริเวณนี้ที่ต้องมีความเจริญอย่างยิ่ง ซึ่งมาที่นี่ก็จะได้เที่ยวชมสองสถานที่นี้คู่กันด้วยอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ในบริเวณนี้เสียค่าเข้าชมด้วย ไกด์ อธิบายทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยก็ปล่อยให้เราอิสระ ร่วม3ชั่วโมง คุ้มค่ากับการได้ชม 2สถานที่ มรดกโลกปามุคคเลและเมืองโบราณเฮียราโปลิศ.
ฉันขอไปเดินชมปราสาทปุยฝ้ายก่อนนะ จะไปแช่น้ำอุ่น แต่ไม่อุ่นเท่าไหร่ เดินถ่ายรูป เนินเขาหินปูนสีขาว ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ทางยาว สามารถเดินลงไปข้างล่าง มีแอ่งน้ำสีฟ้าสวยงามให้ได้แช่เล่นตามรูปถ่ายระยะทางทอดยาวลงมา ซึ่งก็มีประตูทางเข้าออกได้เช่นกันได้ แต่ทัวร์เราพามาทางเข้าชั้นบน ซึ่งก็สะดวกในการเข้าชมเฮียเอราโปลิศ ลงสระAntique pool สระคลีโอพัตราเชียวนะ
มีประวัติศาสตร์เล่ากันมาว่าเป็นเช่นนั้น ถ่ายรูปเจ้าแคลเซี่ยมคาร์บอเนตที่ตกตะกอน กลายมาเป็นปราสาทปุยฝ้ายด้วยลักษณะธรรมชาติที่โดดเด่นไม่เหมือนที่ใด จึงมีคนมาเที่ยวชมกัน
ได้ตลอดทั้งปี ทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนสปา ด้วยPamukale เป็นเมืองแห่งสปา
ได้เวลาฉันก็เข้าไปเดินดูในAntique poolถ่ายรูปหน่อย แล้วก็ออกเดินไปชมซากนครโบราณ และพิพิธภัณฑ์
พลาดไม่ได้คือโรงละครโรมัน ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่2หลงเหลือเป็นรูปร่าง อีกทั้งวิวแบคกราวที่สวยงาม เดินไกลหน่อยก็ต้องไป..
ได้รูปสมใจเสร็จเรียบร้อย เข้ามาเดินในพิพิธภัณฑ์ ได้เวลานัดพบก็กลับไปที่รถตรงตามนัด จากนั้นทัวร์ก็พาไปส่งที่พักโรงแรมครอบครัวที่ฉันจองไว้ Melrose House Hotel ด้วยความเรียบร้อย
ฉันพักที่ 1คืน โดยเปลี่ยนแผนยกเลิกไปKonyaอดีตเมืองหลวงของอาณาจักเซลจุกเตอร์ก ตามรอยซี่รี่ส์
ด้วยไม่อยากเหนื่อยมาก ไปถึงปามุคคาเล เช้าๆเลยดีกว่า มีรถบัสKamilkok ออกจากDenizli 9.30pm ถึงGoreme6.30- 7.00am (ราคาเพียง125TL) ลูกสาวเจ้าของโรงแรมน่ารัก บริการจองให้เสร็จ ฉันเลยมีเวลาได้อยู่ในPamukaleอีกวัน ด้วยรถออก3ทุ่ม เลยตั้งใจว่า พรุ่งนี้ เดินเที่ยวชมpamukaleอีกรอบ อยู่รอถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก ที่จุดถ่ายรูป พระอาทิตย์ตก แสงสะท้อนหินปูนปุยฝ้ายสีขาว เห็นตามรูปสวยงามยิ่งนัก..
แต่ถึงเวลา เพลินๆพักผ่อนสบายๆไม่เร่งรีบ หลังเช็คเอ้า ฝากกระเป๋าโรงแรม แล้วเดินสำรวจ ไปถึงทางเข้าปามุคเล ประตูชั้นล่าง เสร็จ ถ่ายรูป ได้รูปเรียบร้อย ดูเวลา เพิ่งบ่าย3 เริ่มขี้เกียจ อยากพัก แล้วไปนั่งเขียน บันทึก, ลงทะเบียนCOE ขอกลับไทยที่ที่พักดีกว่า ก็เลยยกเลิกการเข้าไปรอบที่สอง
แล้วนั่งรถแวนประจำทาง ขึ้นที่ป้ายรถเล็ก ปากซอยโรงแรมที่พัก ในราคาเพียง 5 TL หรือตกราว 20บาท ก็มาถึงบขส.เดนนิซลิ แล้ว มีเวลาเหลือเยอะ สบายใจ ออกเดินสำรวจรอบไปบขส.ไม่มีอะไร เลยกลับไปเปิด Ipadดู Series Hometown Cha-Cha-Cha ที่ Load มาจากNetflix เสียที..
พรุ่งนี้ พบกัน เช้า 7.00น Goreme Cappadocia..
Good night..
เดินเดี่ยวเที่ยวเองตุรกีถึงจอร์เจีย
ตอนที่ 5
"จะสวยแปลกไปถึงไหนCappadocia"
3วัน 2คืน ในดินแดนCappadocia ในGoreme และอีก1คืนที่ไกยเซรี..
การเดินทางจากจังหวัดDenizli ที่ตั้งpamukkale ด้วยNight Bus 9ชม. เริ่มฟ้าสว่างราว6โมง ความอลังการของธรรมชาติก็มาให้เห็นเมื่อเข้าดินแดนCappadocia รถผ่าน
Nevsehire ก่อน..ตลึงพรึงเพริดกับวิวที่แปลกตา อีก30นาทีก็มาถึงสถานีGorome ..ฉันเดินลากกระเป๋าไปถ่ายรูปไป ดูGoogle Mapทางไปที่พัก 400เมตร เดินดีกว่า..แรกๆก็ถนนทางราบ..พอถึงทางแยกอ้าวขึ้นเขานี่หว่า ทำไง ก็ต้องลากกระเป๋า20กก.ไปต่อ แต่ด้วยความสวยงามของวิว บ้านเรือนแบบถ้ำ ก็โอเคนะ พอไหว ลากไปหยุดไป ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ มองไปบนเนินเขาเล็ก คนกำลังยืนถ่ายรูปกัน หันหลังไปดู อุ้ย บอลลูนลอยเต็มเลย..รีบเอากระเป๋าฝากโรงแรม แล้วขอเดินขึ้นไปบนเขา ซึ่งทางเดินขึ้นไปก็อยู่ข้างๆโรงแรมพอดี แต่ก็เหนื่อยเอาเรื่อง เสียงค่าผ่านทาง3tl ราว12บาท ก็ๆได้ชมทั้งธรรมชาติหลากหลายมุม รอบ360องศา ข้างบนนี้ยังมีร้านอาหารเครื่องดื่ม ไอศครีม ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย..ฉันเพลิดเพลินชมวิวถ่ายรูปได้สักพักใหญ่ ก็กลับลงไป โรงแรมเชิญให้ไปทานอาหารเช้าได้เลย ดีจัง ด้วยยังเช้า8โมงกว่าๆ ฉันเลยขอเลื่อนทัวร์โปรแกรมRedTour จากวันพรุ่งนี้มาเป็นวันนี้เลย พรุ่งนี้ปรับเป็น ขี่ม้ายามเย็นชมพระอาทิตย์ตก กับขึ้นบอลลูนยามเช้ารับแสงแรก 3รายการทัวร์ที่ติดต่อผ่านโรงแรม ที่พัก สะดวกคุ้มค่า มาก รถมารับ ส่งถึงโรงแรม
วันแรก ไปตามโปรแกรมRed tour ชมLandscape ถ่ายรูป และได้เดินทั้งวัน กลับมาถึงโรงแรมก็ขอเดินขึ้นเขาหลังโรงแรมอีกรอบ จ่ายอีก 3 tl รอชมแสงสุดท้าย มีไอศครีมตุรกีขาย ซื้อมาชิม ดู อร่อยไม่แพ้ไอซครีมอิตาลีเลย..อยู่อ้อยอิ่งจนแสงตะวันหมด เปลี่ยนเป็นแสงไฟจากอาคารบ้านเรือน ก็ยังสวยในยามราตรี..
ได้เวลากลับไปที่พัก..รีบเข้านอน วันนี้เดินเยอะมาก ขึ้นเขา2รอบ ทั้งยังลากกระเป๋า เข้าที่พัก เดินชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Goreme open air musuemและValley ต่างๆ..รุ่งขึ้นพรุ่งนี้เข้าเตรียมขึ้นบอลลูน รถจะมารับตี 5.30น..การขึ้นบอลลูน ราคามีให้เลือก3แบบตามจำนวนคนในกระเช้าบอลลูน Standardคนมาก,70€ คนกลางๆ90€ ,คนน้อย110€ ไหนๆก็ไหนๆ ไม่ต้องกลัวมันละโควิด..เอาถูกสุด Standard นี่แหละ 70€..
แต่ก็คุ้มมากๆๆ เป็นประสบการณ์หนึ่งในชีวิตที่ประทับใจ
ชมรูปแทนคำบรรยายเอานะ
แสงมีตั้งแต่แสงแรก ค่อยๆ เพิ่มแสงผ่านไปในจุดชมวิวสวยงามทั่วฟ้าGoreme ,Cappadocia..จบแล้วมีแชมเปญและมอบประกาศนียบัตรด้วย..
ได้เวลากลับที่พัก ทานอาหารเช้า นอนพักผ่อน เขียนบันทึก รอ4โมงเย็น ทัวร์มารับไปขี่ม้าที่Love valley-Rose valley รอชมพระอาทิตย์ตก นี่ก็เป็นอีกรายการที่ประทับใจสุดๆ ..วิวระหว่างทางสวยยยยยมาก แต่ไม่กล้าถ่ายรูปกลัวตกม้า...เส้นทางผ่านเขาหินทรายสีแดง หินรูปร่างแปลกตา มีร่องรอยให้ทราบว่าเป็นที่อยู่อาศัย บ้างก็มีลักษณะเป็นโบสถ์ ผ่านวิวที่กำลังมีสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ต้นองุ่นก็มี เมเปิ้ลก็มี ใช้เวลาราว2ชม.ทางเดินราบเรียบ มีแค่ช่วงสั้นที่หวาดเสียวเล็กน้อย ด้วยเป็นเนินชัน ทางเล็กๆ ม้าคงชำนาญเดินทุกวัน สักพักก็มาจุดพักมีร้านกาแฟเครื่องดื่ม นำผลไม้ ทับทิม ฉันชอบน้ำทับทิม เลยสั่งมาแก้วนั่งดื่มพร้อมชมวิวกินบรรยากาศซักพัก(แก้วละ25tl)..สักพักก็ขี่ม้าไปต่อไม่กลับทางเดิน ไปถึงจุดชมพระอาทิตย์ หยุดถ่ายรูปกันพักนึง..สวยงามด้วยแสงและวิวบรรยากาศรอบๆ ขี่ม้าชมวิวนี้ก็ประทับใจมากเช่นกัน
ทริปนี้ไม่แพงมาก คุ้มมาก
25€ แนะนำถ้าใครอยากมา ซื้อรายการนี้ด้วยเลย.
จบ3รายการทัวร์ที่เลือกไว้ พรุ่งนี้เช้า สบายๆชิลล์ๆละ ถ่ายรูปวิวหน้าระเบียงห้องพักบนดาดฟ้าโรงแรมที่พัก..Elite Cave Hotel ..
ทำเลสวย ด้วยเป็นโรงแรมถ้ำ เป็นเขา เราเลยสะดวกรับบรรยากาศวิวที่สวยงามรอบทิศ
วิวสวยทุกวัน..นะCappadocia..
วันนี้ ได้เวลาออกจาก Goreme เปลี่ยนที่พัก ด้วยต้องกลับไปขึ้นเครื่องบินที่เมืองKayseri ด้วย วันนี้ บ่ายต้องบินไปTbilisi ,Georgia.ที่เลือกบินKayseri เพราะมีFlightเช้าตี5 บินไปสนามบินSAW Istanbul ฉันต้องบิน จากSAW ไปTbilisi ช่วงบ่าย..
เลยนั่งรถShuttleมาKayseri วิวสวยงามเปลี่ยนไปอีกแบบ Kayseri เมืองใหญ่ ที่สวยงามบ้านเมืองเหมือนเมืองในยุโรป มีภูเขาสูงโอบล้อม คนนิยมมาเล่นสกีที่เมืองนี้.
โชคดีมากที่ได้มา วิวระหว่างทางคล้ายๆIceland.เลย ฉันมาพักที่โรงแรมLifosโรงแรมดีมาก แต่ราคาแค่500กว่าบาท 1คืนเพื่อรอขึ้นเครื่อง..
บ่ายนี้ พบกันที่ Tbilisi Georgia..
บายๆ แล้วพบกัน ตอนต่อไป..ภาค2 เที่ยวจอร์เจีย
ศิรินัดดา..


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น