Machu Picchu มนต์เสน่ห์แห่งเปรู

มาชู ปิคชู ดั่งต้องมนต์เสน่ห์อินคา แห่งเปรู 

ตี5รุ่งอรุณเช้าวันที่2เมษายน2016 เสียงเพลงละครดังจากสมาร์ทโฟนของบัดดี้เดินทางของฉัน..ค่อยๆดังขึ้นเช้านี้อีกครั้ง ..ทุกเช้า(พี่ทั่นหลงไหลติดละครงอมแงม "ปดิวรัดา" ช่วงนั่นฉันไม่เคยดูเคยติดละครใดๆเลย ไม่เคยรู้จักดาราดังทั้งหลาย ก็เพิ่งจะได้รู้จักทริปนี้แหละ  เลยรู้จักนางเอกคนน่ารักเบลลา มาตั้งแต่บัดนั้น..บัดนี้เข้าใจแล้ว ว่าทำไมการติดละคร,ดารามันเป็นยังไงนักหนา!?.เพราะบัดนี้ฉันก็กลายแฟนคลับK series ดาราเกาหลี ตัวยงไปเสียแล้ว..)
เข้าเรื่องต่อ..
ทุกคนลงมาพบกันโดยพร้อมเพรียงตามนัดหมายอากาศเย็นสยาย ที่นี่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราวๆ2500เมตร โล่งใจไม่มีใครมีอาการปวดหัวตึบๆจากAMS (Acute Mountain sickness)แต่จากนี้ไปเราจะนั่งรถไฟขบวนที่กล่าวขานกันว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  ตามเส้นทางเดินทางรถไฟนั้น เราขึ้นที่สถานีศูนย์กลางใหญ่Ollantaytambo อันเป็นสถานีที่2
ที่ต่อมาจากสถานีต้นทางคือ สถานีPoroy  ที่ใกล้เมืองCuzco 
ฉันเลือกทางเลือกที่คิดว่าสะดวกสบายเหมาะแก่วัยห้าหยกๆ หกหย่อนๆ ถ้ามาช่วงสาวๆกว่านี้ คงเลือก เส้นทางTrail เป็นแน่แท้ ตามแผนผังที่ฉันได้เสาะแสวงหาข้อมูลเดินทางในอินเตอร์เนต  ต้องขอบคุณ www.andeantravelweb.com/peru  ที่ดูง่าย ๆ เข้าใจภาพรวมวิธีการเดินทาง   ถ้าฟิตร่างกายมามากกว่านี้ กม.104 จะมีเส้นทางเทรลอินคา Classic 4วัน สามารถมาได้ทั้งทางรถยนต์หรือรถไฟ แล้วลงเดินเทรล และอินคาเทรลแบบ short 2วัน นั่งรถไฟมาลง กม.82 แล้วเดินเทรลไปMachu Picchu

ฉันเลือก นั่งรถไฟจากOllantaytambo มาลงเมืองAguas Calinentes แล้วต่อรถบัส ขึ้นไปถึงทางขึ้นเข้าชมMachu Picchu
การซื้อตั๋วรถบัส เราได้รับความสะดวกจากทัวร์2Daytrip จัดการให้โดยมีไกด์ท้องถิ่นหนุ่มรูปงามตามแบบฉบับอินคา มาบริการรับ และพาเราเข้าชมเมืองMachu Picchuและเล่าเรื่องราวต่างๆ โดยรอบอย่างกระตือรือร้น  บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจของการเป็นลูกหลานแห่งอินคา(อินคา..จักรวรรดิ์โบราณอันยิ่งใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้ ราว คศ1438-1533) สังเกตุจากหนังสือที่เขาเปิดให้เราชมพร้อมอธิบาย..ดูก็ขลังแล้ว  เพราะต้องผ่านการเล่าเรื่องราวเช่นนี้มามากมาย..ภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว หน้าตาเข้มๆฝรั่งไม่ใช่ แขกก็ไม่เชิง  ออกไปทางอินเดียนแดง ..กลมกลืนกับบรรยากาศการเดินทางนักเชียว.
ต่อไปนี้ เราจะไปชมให้เห็นกับตา
Machu Picchu เมืองที่เคยสาบสูญหายไปกว่า 300ปีของจักรวรรดิ์อินคา จักรวรรดิ์อันเคยยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองในแถบทวีปอเมริกาใต้ ก่อนที่จะถูกสเปนยึดครอง..ที่ถูกค้นเพิ่งพบเจอราว110ปีก่อน 
ช่วง คศ.1911 หรือราวพ.ศ 2454 โดยนักสำรวจชาวอเมริกัน
เมื่อขึ้นมาถึงขบวนรถไฟ ก็เริ่มทึ่งแล้ว  บรรยากาศภายตกแต่งแบบอินไปกับอินคาด้วยศิลปะท้องถิ่น  ลวดลายบนผนัง ผ้าปูโต๊ะ เสียงเพลง เสียงนำด้วยเสียงขลุ่ยท่วงทำนองช้าแบบเพลงพื้นเมือง มีความไพเราะ ซึ้งๆ  เสียงขลุ่ยช่างเข้ากับเพลงร่วมยุคสมัยเราอย่างSound of Silence.,El Condor Pasaของ Paul Simon&Garfunkel.

พาแหงนหน้า มองฟ้า ชวนตามหา
นกแร้ง นกกินเนื้อ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกAndean Condor กางปีกสลาร่อนบิน อย่างงามสง่า Condorสัญญลักษณ์แห่งดินแดนอินคา บนแผ่นดินเปรู ..
รถไฟเคลื่อนออกจากสถานีผ่านหุบเขาป่าไม้เขียวขจีของเดือนเมษานน  ลำธารน้ำใส  แม่น้ำอุรุบัมบา ไหลรินไปตามแนวขนานกับทางรถไฟในบางช่วง   ภาพธรรมชาติมองจากหน้าต่างรถไฟแบบพาโนรามา ชวนให้เคลิบเคลิ้มพร้อมด้วยเสียงเพลงบรรเลงซึ้งๆ ชวนให้หลงใหลดั่งต้องมนต์เสน่ห์..

ลงรถไฟ ต่อรถบัส วิวก็ยิ่งงาม ใกล้ชิดธรรมชาติเข้าไปอีก..
สรุปว่าบรรยายยังไงก็ไม่ได้เท่าเศษเสี้ยวความงดงามของธรรมชาติที่กว้างใหญ่ไพศาล  
ซากเมืองโบราณ เห็นแล้วทึ่งตลึงงัน นึกไปถึงความพยายามของคนในยุคนั้น สร้างได้อย่างไรหนอ ? หินแต่ละก้อนวางซ้อนต่อกันแนบสนิท อยู่ยืนยาวมาให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชม  
เจ้าอัลปาก้า เจ้าถิ่น หน้าตาน่ารัก  เจ้าลามา  นางแบบประกอบภาพ ให้ดูอบอุ่น
ชื่นชมกันทั้งทางรถไฟ รถบัส การเดินถ่ายรูป ทั้งวัน เพลิดเพลินมาก
  
มื้อเที่ยง วันนี้เราเดินเล่น เพลินช้อปปิ้ง ได้เวลา ชิมอาหารท้องถิ่น  หนีไม่พ้น สำหรับคอเนื้อ  มีเนื้อย่างลามา  เขาว่ารสชาดเยี่ยม  แต่ฉัน ไม่ถนัดนักกับการทานเนื้อสัตว์ที่ไม่คุ้น  ขอทานอาหารท้องถิ่นแบบธรรมดาๆ ในร้านที่ตกแต่งสวยงามตามแบบฉบับย้อนยุคบรรยากาศอินคา นั่งสบายๆ เสียงเพลงของขาวพื้นเมืองอินคากับเครื่องดนตรีท้องถิ่นผสมสมัยใหม่ บรรเลงเข้ากันได้ดี ท่วงทำนองทั้งสนุกสนานและซึ้งๆ..แค่นี้  ก็อิ่มเอมแล้ว..
หลงใหลธรรมชาติ    เรื่องราวแห่งอินคา  เสียงเพลง บรรเลง  ตกหลุมรักเข้าไปอีกเลยได้อุดหนุนCD ศิลปินชนพื้นเมืองอินคาสมใจ  ..กลับมาถึงเมืองไทย ก็ยังเปืดฟังคลอๆระหว่างขับรถไปไหนมาไหนอีกด้วย..
ช่วงบ่ายเรามีเวลาอิสระให้ได้เดินช้อบ หามุมถ่ายรูป ย่อยอาหารกันพักใหญ่ๆได้เวลากลับ เราจองรถไฟเวลากลับเที่ยว16น.ทุกคนมาพบกันที่สถานีตามเวลา
พอมาขึ้นรถไฟ..ขากลับรถไฟออกได้สักพัก  มีเซอร์ไพรซ์..เสียงเพลงท้องถิ่นคึกคัก..สักพัก..น้องพนักงานต้อนรับบนรถไฟทั้งชายหญิง แปลงร่าง เป็นนางแบบ นายแบบ ทางเดินตรงกลางกลายแคทวอล์ค  เฉิดฉายด้วยโชว์ชุดเสื้อผ้า  ผ้าพันคอ  นำเสนอสินค้าพื้นเมืองของเปรู
เหมือนสินค้าOtop  5ดาวที่คัดสรรมาแล้วของบ้านเราน่ะ  5-6ชั่วโมง ผู้คนยังตกอยู่มนต์..เสร็จเปรู ละคราวนี้.
จัดไป  ฉันได้ซื้อผ้าพันคออัลปากาสวยงามไป5ผืน .แต่ก็ถูกใจด้วยราคาไม่แพงเลย..

ไม่เรียกว่าต้องมนต์เสน่ห์ แล้วจะให้เรียกว่าอะไร..!

อ้อ!มีเกร็ดความรู้ บอกต่อเล็กน้อย  คือว่า..  
ปีที่เราไปนั้น 2016 นับว่าโชคดี ที่การขึ้นไปชมมาชูปิคชู ไม่ถูกจำกัดเวลา แต่จำกัดด้วยจำนวนคนไม่เกิน2,500คนต่อวัน
แต่ปัจจุบันจำกัดทั้งจำนวนคนและเวลาด้วยนักท่องเที่ยวมหาศาลจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาเปรูเพื่อไปเที่ยวชมมาชูปิคชู ทำให้เกิดมีความเสียหายต่อโบราณสถาน ตั้งแต่ ปี 2017 ทางรัฐบาลเปรู จึงอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมได้วันละ2รอบและจำกัดจำนวนคน คือรอบเช้า และรอบบ่าย  ถ้าจะอยู่ทั้งวันก็ต้องเสียสองรอบ

กลุ่มเราเป็นกลุ่มที่เดินทางกันเอง6คนใช้ทัวร์เดย์ทริป นับว่าสะดวกสบายที่สุด. คุ้มค่า ราคาไม่แพง  ส่วนที่พักก็ทำการจองเลือกเอง ราคาเหมือนเที่ยวเมืองไทย  ตรงเป้าหมาย งบประมาณ..ได้ความอิสระในการเดินทาง  ต้นทุนที่สูงสุดในการเดินทาง ก็คือตั๋วเครื่องบิน  เราบินด้วยEtihad ตกราคาราว7หมืนกว่าบาท ดังนั้น
ทริปตลุยอเมริกาใต้ครั้งนี้ ขอไปให้คุ้มค่าตั๋วเครื่องบินหน่อยไป จัดไป20วันเดินทาง โดยก่อนหน้าที่มาถึงเปรูนั้น เราได้เที่ยวบราซิล และน้ำตกอีกวาซู ทั้งสองฝั่งคือฝั่งบราซิลและฝั่งอาเจนตินามาแล้ว ยังประทับใจมาถึงบัดนี้( ไว้จะขอเล่าเรื่องการเดินทางต่อจากเปรู)  พอมาถึงเปรูแล้ว ฉันตั้งใจตรงมาคูซโก และปลายทางมาชูปิคชู แล้ว และต่อจากนี้  เรายังมีแผนการเดินทางไปถึงทะลสาบตีตีกากา เมืองปูโน  ด้วยการเดินทางด้วยรถบัสทัวร์  8ชม.ได้เที่ยวชมระหว่างทาง อย่างคุ้มค่ามาก..ขอแนะนำ

ไปทำไม..ที่ปูโน ?
ไปเกาะอูรอส เกาะตีคีเลย์
ด้วยมีสถานที่หนึ่งซึ่งฉันได้เคยชมในสารคดี จึงขอตามไปเลยที่นี่
เกาะอูรอส
เกาะเทียมลอยน้ำที่สร้างจากต้นกกโตโตรา  กลางทะเลสาปตีตีกากา  .. เราจะไปล่องทะเลสาบตีตีกากา ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ พรมแดนระหว่างเปรู และโบลิเวีย..กันต่อ ก่อนกลับประเทศไทย

บายๆ มาชูปิคชู.
แล้วพบกันที่คูซโก ไปจนถึงทะเลสาบตีตีกากา
ในตอนต่อไป
คืนนี้..ราตรีสวัสดิ์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดอกไม้ผลิบานที่จอร์เจีย 9-25 มิถุนายน 2023.

Faroe island&Aurora Scandinavia &Autumn Baltic &Poland 2025

อยากขับรถเที่ยวโดโลไมท์ ทำไงดี??ตอนที่ 1